มหัศจรรย์ 3,000 โบก ( แกรนด์แคนย่อนเมืองไทย)

มหัศจรรย์ 3,000 โบก ( แกรด์แคนย่อนเมืองไทย)

3,000 โบก  คือไร ? หลายคนคงเกิดอาการนี้เหมือนผมเมื่อหลายปีก่อน
ได้ยินแล้วงงๆ เพราะไม่เคยรู้จักมาก่อน  และไม่รู้ภาษาถิ่นด้วย  โบก
มาจากภาษาอีสานแปลว่า หลุม บ่อน้ำลึก  3,000 โบกก็หมายถึงแอ่ง บ่อน้ำลึก
จำนวนมากมาย 3000 หลุมซื่งเริ่มมีชื่อเสียงได้ยินมากัน 2-3 ปีหลังจากการโปรโมท
ของการท่องเที่ยวประเทศไทยให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่  ของอุบลราชธานี

3,000 โบกตอนเช้า

3,000 โบกตอนเช้า

   โบก อันเกิดจากกระแสน้ำได้พัดพาก้อนกรวด หิน  ทราย  และเศษไม้
กัดเซาะขัดแผ่นหินทรายให้เกิดเป็นหลุมแอ่ง  มีขนาดเล็กๆจนถึงขนาดใหญ่
จำนวนมากมาย หินบางก้อนถูกกัดกร่อนคล้ายงานแกะสลักเป็นรูปสัตว์ รูปหัวใจ
รูปมิกกี้เมาส์จากโบกจำนวนมากมายจนสถานที่แห่งนี้ถูกขนานนามว่า
“สามพันโบก”

รอบโบกมรกต

รอบโบกมรกต

สามพันโบก  ถือว่าเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุด
ในลำน้ำโขงเท่าที่ทราบกันมา  ซึ่งในบริเวณเดียวกันมีสถานที่ที่ชาวบ้านเรียกว่า
แกรนแคนยอนเมืองไทยอันเกิดจากการกัดเซาะของน้ำหลายพันปี    ตามแนวเส้นทาง
เลาะทางแม่น้ำโขงที่คุ้นหูเรานั้นเองครับมองเห็นฝั่งประเทศลาวฝั่งตรงข้ามได้ไม่ไกลเลย
เป็นร่องน้ำขนาดใหญ่  สูงประมาณ  3-7  เมตร  กว้างประมาณ  20  เมตร
ซึ่งตามแนวเส้นทางของโบกทุกระยะทางจะมีหินรูปร่างหน้าตาแปลกๆ
หรือบ่อน้ำที่สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจให้เราได้ชมกันครับเช่นบ่อ มรกต  หรือบ่อรูปหัวใจ
โดยที่เด่นๆ  ก็จะเป็นหินรูปหัวสุนัข     ซึ่งมีตำนานเล่าขานกันต่างๆ นานา  บ้างก็ว่า
แต่ก่อนมีเจ้าเมืองเป็นผู้เรืองอำนาจประทับใจความงามของสามพันโบก
จึงได้ส่งเสนามาศึกษาเพิ่มเติมเมื่อมาแล้วพบขุมทรัพย์เป็นทองคำจึงให้สุนัข
เฝ้าทางเข้าจนกว่าเจ้าเมืองจะออกมาเมื่อเจ้าเมืองได้เห็นสมบัติเกิดความโลภ
กลัวเสนาจะได้ส่วนแบ่งจึงได้ออกไปทางอื่น  สุนัขผู้ภักดีก็เฝ้ารออยู่ตรงนั้น
จนตายในที่สุด

บางตำนานก็ว่าลูกพญานาคในลำน้ำโขงเป็นผู้ขุดเพื่อให้เกิดลำน้ำอีกสายหนึ่ง
และได้มอบหมายให้สุนัขเป็นผู้เฝ้าทางระหว่างการขุดจนกระทั่งสุนัขได้ตายลง
กลายเป็นหินรูปสุนัขในที่สุด

สงสะท้อนสระมรกต

สงสะท้อนสระมรกต

การเดินชมโบกที่นี่ควรเดินด้วยความระมัดระวังด้วยนะครับ  บางจุด บางโบกมีความลึกมาก
หากพลัดตกลงไปอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้   หรือการปีนป่ายไปตามยอดหินรูปต่างๆ
ก็สูงจากจุดที่เป็นทางน้ำเหมือนกันครับ   ควรเดินดูไลน์หินและเดินด้วยความระมัดระวังครับ
ควรใช้รองเท้าที่ยึดเกาะดีๆ  หรือถอดรองเท้าเดินจะดีกว่า  ( อันนี้ความถนัดส่วนตัวครับ ) ^^”
ที่ท่านเดินชมอยู่นั้นคือเรากำลังเดินอยู่ก้นบึงบาดาลของแม่น้ำโขงเลยนะครับ
ถ้าหากเป็นช่วงฤดูฝน   หรือน้ำขึ้นโขดหิน  โบกต่างๆ เหล่านี้  คืออยู่ใต้แม่น้ำทั้งหมดเลยครับ
ดังนั้นใครที่จะคิดไปเที่ยวที่นี่วางแผนให้ดีนะครับ   ว่าน้ำลดหรือขึ้นหรือยัง   ช่วงที่นิยมไป
ก็เป็นฤดูหนาว จนถึงฤดูร้อน ประมาณ พฤศจิกายน – พฤษภาคม  ของทุกช่วงปีครับ
ถ้ามานอกจากนี้   ก็เตรียมชุดประดาน้ำไปชมโบกแทนนะครับ ^^”

ถ้ามาที่นี่ในจะมีจุดให้เราจอดรถและเข้าไปดูได้ 2 จุดใหญ่ๆ ครับ  และจะมีไกด์ท้องถิ่น
นำทางเราไปด้วย   ถ้าในฤดูท่องเที่ยวจะมีรถกระบะ ไว้บริการตอนลงครับ ( จุดที่ 2 )
เพราะทางลงนั้นก็เหมือนขับรถลงไปทางแม่น้ำครับ  มีหิน มีโขดหินใหญ่ๆ ตลอด
รถเก๋งเลิกคิดเลยแต่ถ้าเป็นอีกจุดหนึ่งจะมีลานกางเต๊นท์ไว้บริการด้วย ( แต่พื้นที่ไม่มากนัก )
จุดนี้จะเดินลงไปใกล้กว่าครับ ( จากทางเข้าจะผ่านจุดนี้ก่อน )

หินรูปหัวสุนัข 3,000 โบก

หินรูปหัวสุนัข 3,000 โบก

 

ทีพัก
หากใครอยากชมความงามของ 3,000 โบก แบบชิดใกล้ตื่นมาก็  เดินที่โบกเลย
ก็เข้าไปที่จุดชมโบกจุดแรกเลย  จะมีพื้นที่ให้เช่ากางเต๊นท์ได้ครับ
แต่หากท่านที่ต้องการความสะดวกบรรยากาศสบายก็ต้องขับเลยไปที่หาดสลึงครับ
จะมีที่พัก รีสอร์ทต่างๆให้เลือกพักมากมายครับ  แล้วตอนเช้าค่อยขับรถไปชมโบก
อาหารที่นี่อร่อยมากครับอันนี้แอบแนะนำเลย  นั่งชิมปลาสดจากแม่น้ำโขง
ที่ริมโขงลมพัดเย็นๆ   มันยอดจริงๆ เลยครับหรือลองหาที่พักในตัวเมืองใกล้ๆ เคียง
ลองคลิกดูได้  >> ที่นี่  << ครับ

แผนที่และการเดินทาง

map

map

1. รถยนต์ส่วนตัว
จากจังหวัดอุบลราชธานี ระยะทาง 120 เมตร วิ่งตามทางหลวงหมายเลข 2050
ผ่านอำเภอตระการพืชผล ไปยัง อำเภอโพธิ์ไทร ด้วยระยะทางประมาณ 110 กม.
และเดินทางต่อไปยังบ้านสองคอนเข้าไปหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตร

อีกเส้นทาง ตอนผมไปทาง อ.โขงเจียม ผ่าน อช.ผาแต้ม แล้วขับถนนเส้น 2112
เส้นทางถนนราดยางก็จริงกครับ  แต่สภาพทางไม่ค่อยดีนัก  ทางเป็นรอนๆๆๆ
ตลอดทางครับทำให้ใช้ความเร็วได้ไม่มาก ( สำหรับรถเก๋งครับ )
ข้างทางตอนฤดูแล้งจะพบเจอไฟไหม้ป่าแทบตลอดทางโปรดขับด้วยความระวังครับผม

2. รถโดยสารประจำทาง
มีรถทัวร์ปรับอากาศของบริษัท เชิดชัยทัวร์จากกรุงเทพฯ – สองคอน ลงที่สองคอน
หลังจากนั้นก็โทรแจ้งให้รีสอร์ท ขับรถมารับ (เสียค่าใช้จ่ายแล้วแต่ตกลง)
หรือ อาจจะอาศัยโบกรถของชาวบ้านมาลงแถวนั้น

ฤดูร้อนนี้หากยังไม่รู้จะไปไหน  ลองไปที่นี่ดูสิครับอาจจะเดินทางไกลสักหน่อย
แต่รับรองว่าถ้าคุณไปได้ถูกที่  ถูกเวลา  มันจะงามมากๆ ครับ
พาคนที่คุณรัก  พาเที่ยว พาไปทั่วไทยกันครับ  ที่นี่ 3,000 โบก

รูปภาพจาก http://rukawajung.multiply.com ( ของผมเอง)

Share this: Twitter | StumbleUpon | Facebook | digg

Comments

comments

เรื่องนี้ถูกเขียนใน เที่ยวธรรมชาติ และติดป้ายกำกับ , , , , , , , , , , , , , , , , , คั่นหน้า ลิงก์ถาวร

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *